คุณเคยคิดที่จะส่งออกสินค้าไปประเทศไทยหรือไม่ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกเรียกว่า "ลูกเสือ หรือ Tiger Cubs" ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เรียกเช่นนี้เพราะพวกเขากําลังเดินตามรอยเท้าของ "เสือ" ดั้งเดิมเช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ประเทศที่ถูกเรียกว่า " Tiger Cubs " นี้กำลังเติบโต มีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว และมีเศรษฐกิจที่เฟื่องฟู และสำหรับในประเทศไทยตลาดอีคอมเมิร์ซก็กำลังเติบโตเช่นกัน
ด้วยข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่ ความรู้ด้านศุลกากรและพันธมิตรด้านการขนส่งระหว่างประเทศธุรกิจของคุณจะสามารถสร้างรายได้ อ่านคู่มือฉบับนี้เพื่อช่วยในการส่งออกสินค้าของคุณไปยังประเทศไทย
ตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทย
เศรษฐกิจของประเทศ "Tiger Cub" ที่น่าจับตามอง
ตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยมีผู้บริโภคมากกว่า 43 ล้านคน(1) คาดการณ์ว่ารายได้จะสูงถึง 19,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024(2)
ผู้นําระดับโลกด้านการ ซื้อ-ขาย บนมือถือ
ยอดขายออนไลน์ผ่านอุปกรณ์มือถือมีสัดส่วนมากกว่า 80% ของยอดขายออนไลน์ทั้งหมดในประเทศไทย ในขณะที่การใช้ mobile wallets คิดเป็น 23% ของธุรกรรมทั้งหมด(3)
สัดส่วนการช้อปปิ้งจากต่างประเทศมีขนาดใหญ่
นับเป็นเรื่องดีสำหรับผู้ขายต่างประเทศ เพราะผู้บริโภคชาวไทยมีความเชี่ยวชาญในการช้อปปิ้งจากแบรนด์ต่างประเทศเป็นอย่างดี โดยยอดขายระหว่างประเทศคิดเป็นเกือบหนึ่งในสามของตลาดอีคอมเมิร์ซทั้งหมดของประเทศไทย(4)
ประเทศไทยนําเข้าจากที่ไหนมากที่สุด
แหล่งนําเข้าหลักของไทย5
(ตามส่วนแบ่งการตลาด 2023)
ผู้บริโภคในประเทศไทยซื้อสินค้าออนไลน์ที่ไหน
ตลาดออนไลน์หรือ Online marketplaces เป็นช่องทางที่มีประโยชน์สําหรับธุรกิจที่ต้องการส่งออกไปยังประเทศไทยเป็นครั้งแรก
เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในประเทศไทย6 (พฤษภาคม 2024)
1: shopee.co.th
2: lazada.co.th
3: amazon.com
4: kaidee.com
5. aliexpress.com
ปลาย: หากคุณต้องการขายสินค้าผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณเอง อย่าลืมแปลเนื้อหาทั้งหมดเป็นภาษาไทยและแสดงราคาทั้งหมดเป็นเงินบาท คุณสามารถใช้เครื่องมือ AI เพื่อจัดการเรื่องเหล่านี้โดยอัตโนมัติ
โซเชียลคอมเมิร์ซ (Social commerce) ก็มีขนาดใหญ่และเป็นที่นิยมเช่นกัน:
44% ของผู้บริโภคชาวไทยใช้โซเชียลมีเดียเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ต่าง ๆ7
20% ของผู้ใช้โซเชียลมีเดียชาวไทยติดตามแบรนด์ที่พวกเขาเคยซื้อสินค้ามา8
เคล็ดลับโซเชียลคอมเมิร์ซ (Social commerce)
- ใช้ประโยชน์จากเครื่องมืออีคอมเมิร์ซของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Instagram Shop เพื่อให้ผู้ติดตามสามารถซื้อสินค้าจากแบรนด์ของคุณได้ง่ายโดยไม่ต้องออกจากแอป
- ลองขายบน TikTok! แอพลิเคชั่น TikTok เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยคนไทยมักใช้เพื่อทำ "Challenges" ต่างๆ ที่กําลังเป็นกระแส แบรนด์ของคุณสามารถเข้าร่วมและเป็นที่รู้จักได้ผ่านช่องทางนี้ อย่าลืมสร้างเนื้อหาให้สนุกและให้เกิดการมีส่วนร่วมของลูกค้าด้วย
- หลายๆแบรนด์ใช้การสตรีมสด (Livestream) บนช่องต่างๆ เช่น Instagram, TikTok และ Facebook สิ่งนี้ช่วยสร้างการมีส่วนร่วมกับแบรนด์และสามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งนําไปสู่ยอดขายที่สูงขึ้น
- ลองใช้ประโยชน์จากการตลาดแบบพันธมิตรที่เป็นตัวแทนขาย หรือที่เรียกว่า affiliate marketing การใช้อินฟลูฯ ชาวไทยที่มีชื่อเสียงเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ของคุณจะสร้างความไว้วางใจในแบรนด์ของคุณกับผู้บริโภคในท้องถิ่นได้
ชาวไทยนิยมซื้ออะไร
หมวดหมู่สินค้าบนอีคอมเมิร์ซแบบ B2C ที่นิยมในประเทศไทย9
(การใช้จ่ายรายปีโดยประมาณ เป็นดอลลาร์สหรัฐ ปี 2023)
การเติบโตของหมวดหมู่อีคอมเมิร์ซที่ต้องระวัง
ข้อมูลเชิงลึกโดยตรงจากทีมงาน DHL ประเทศไทยของเรา!
- ผลิตภัณฑ์เสริมความงามและเครื่องสําอาง
- ของสะสม เช่น Art toy
- ขนมขบเคี้ยว โดยเฉพาะอาหารแห้ง
- อาหารสําเร็จรูปปรุงสุก
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
- ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ความงาม และสุขภาพ
- ผลิตภัณฑ์สําหรับสัตว์เลี้ยง
การขายในราคาที่มิตรภาพและแข่งขันได้จะช่วยดึงดูดลูกค้าชาวไทยได้
สินค้าที่เกี่ยวกับการเสริมโชคลาง และสายมูฯ
สินค้าหรือเครื่องประดับที่เชื่อว่านํามาซึ่งโชค ความมั่งคั่ง และความเจริญรุ่งเรืองก็เป็นที่นิยมในหมู่นักช้อปชาวไทยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น เครื่องประดับที่มีเครื่องรางพิเศษเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี
ผู้บริโภคชาวไทยนิยมชําระเงินสําหรับการซื้อสินค้าออนไลน์อย่างไร
โดยทั่วไปแล้วนักช้อปอีคอมเมิร์ซมีแนวโน้มที่จะไม่ดำเนินการซื้อสินค้าต่อหากไม่สามารถชําระเงินโดยใช้วิธีการชําระเงินที่ต้องการได้
วิธีการชําระเงินชั้นนําสําหรับอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย10 (ตามส่วนแบ่งของธุรกรรม B2C, 2022)
นักช้อปออนไลน์คนไทยมีความสําคัญอย่างไร?
ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จากการ สํารวจนักช้อปทั่วโลกของ DHL ปี 2023 จะช่วยคุณในการวางตําแหน่งธุรกิจของคุณเพื่อดึงดูดผู้ซื้อในท้องถิ่น
49% ต้องการทราบราคาในสกุลเงินของตนเอง
อย่าลืมแปลเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณเป็นภาษาไทยด้วย มีเครื่องมือ AI มากมายที่สามารถช่วยได้
60% จะไม่ทำการซื้อต่อหากไม่พอใจกับตัวเลือกการจัดส่ง
ด้วยบริการจัดส่งแบบ On-Demand ที่ยืดหยุ่นของ DHL Express ลูกค้าของคุณสามารถเลือกเวลาและสถานที่ที่จัดส่งคําตามต้องการได้ และสามารถติดตามพัสดุของพวกเขาได้ตลอดเส้นทาง
87% ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนเมื่อซื้อสินค้าออนไลน์
การเสนอตัวเลือกการจัดส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในขั้นตอนการชําระเงินสามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ได้
เทศกาลลดราคาและวันหยุดช้อปปิ้งหลัก ๆในประเทศไทย
อย่าลืมเพิ่มวันที่เหล่านี้ลงในปฏิทินการตลาดและการขายของคุณเพื่อทำกำไรในช่วงเทศกาลเหล่านี้
ลดราคาในวันคู่ หรือ Double Digits ตลอดทั้งปี
1.1 (1 มกราคม), 2.2 (2 กุมภาพ.), 3.3 (3 มีนาคม) ... ในแต่ละเดือนผู้ค้าปลีกในไทยจะใช้วันคู่ หรือ "Double Digits " เพื่อให้ข้อเสนอและส่วนลด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีโปรโมชั่นการขายสําหรับวันที่เหล่านี้หากคุณต้องการทำกำไรมากขึ้น
ตรุษจีน - มกราคม, กุมภาพันธ์
ผู้คนจะเฉลิมฉลองด้วยการใช้เวลากับครอบครัว แลกเปลี่ยนของขวัญ และเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่สืบต่อกันมาก
สงกรานต์ (ตรุษไทย) - เมษายน
เทศกาลสงกรานต์ถือเป็นจุดเริ่มต้นของปีใหม่ไทยแบบดั้งเดิม ตลาดออนไลน์ในประเทศอย่าง Lazada และ Shopee ใช้วันหยุดนี้เป็นโอกาสในการเสนอโปรโมชั่น
สุดสัปดาห์ช่วง Black Friday/Cyber Monday - พฤศจิกายน
ประเทศไทยก็เหมือนกับประเทศอื่น ๆ ที่มีการจัดส่วนลดในช่วงวันลดราคาทั่วโลกนี้ การแข่งขันนั้นดุเดือดดังนั้นคุณจะต้องเสนอข้อเสนอใหญ่ๆ เพื่อดึงดูดนักช้อปชาวไทยผ่านช่องทางออนไลน์ของคุณ
วันคนโสด - 11 พฤศจิกายน
วันคนโสดมีต้นกําเนิดในประเทศจีน ปัจจุบันเป็นงานลดราคาช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก (แซงหน้า Black Friday ไปแล้ว) อย่าลืมเตรียมส่วนลดเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นและถูกในนักช้อป
คริสต์มาส/ปีใหม่ - ธันวาคม
เดือนธันวาคมนับว่าเป็นฤดูกาลลดราคาใหญ่สําหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากผู้บริโภคมักจะซื้อสินค้าทางออนไลน์ เช่นอาหาร ของขวัญ และของตกแต่ง เคล็ดลับ: การเสนอการจัดส่งที่รวดเร็วจะช่วยให้คุณได้รับยอดมากขึ้นจากนักช้อป
ข้อมูลเชิงลึกด้านศุลกากร สำหรับการจัดส่งสินค้าไปยังประเทศไทย
เอกสารที่จําเป็นสำหรับการส่งออกไปยังประเทศไทย
ในการจัดส่งสินค้าไปยังประเทศไทย มักต้องใช้เอกสารหลายชิ้นเพื่อให้การเคลียร์สินค้าของคุณผ่านพิธีศุลกากรอย่างราบรื่น และช่วยให้เจ้าหน้าที่กําหนดภาษีนําเข้าและอากรที่ต้องชําระได้อย่างถูกต้อง:
- ใบกํากับสินค้า (Commercial Invoice)
- ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading)
- ใบนำส่งสินค้า (Air Waybill)
- หนังสือรับรองแหล่งกําเนิดสินค้า (Certificate of Origin)
- ใบอนุญาตการส่งออกและนําเข้า (Export and Import Licenses)
- ส่งออกรายการบรรจุภัณฑ์ (Export Packing List)
- หนังสือรับรองการประกันภัย (Insurance Certificate)
คู่มือเฉพาะนี้ จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารแต่ละฉบับ รวมถึงข้อมูลที่คุณต้องกรอก
ข้อกําหนดขององค์การอาหารและยา
ผู้ส่งสินค้า ที่นําเข้าเครื่องสําอาง ยา อาหารเสริม อุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับใช้ส่วนบุคคล และ/หรืออาหาร ต้องได้รับใบอนุญาตและอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Food and Drug Administration)
ชิปเมนต์เหล่านี้ควรดําเนินพิธีการทางศุลกากรอย่างเต็มรูปแบบเท่านั้น ก่อนผ่านพิธีการศุลกากรผู้รับสินค้าต้องลงทะเบียนกับกรมศุลกากรไทย และแจ้งให้ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จํากัด เป็นนายหน้าในการเดินพิธีการศุลกากร
หากสินค้าเป็นของใช้ส่วนตัว ผู้จัดส่งจะต้องได้รับการอนุมัติจากการยกเว้นของ FDA เพื่อนําเข้า (รายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับคําจํากัดความขององค์การอาหารและยาสำหรับการใช้งานส่วนบุคคลสามารถดูได้ใน เว็บไซต์)
การจัดส่งที่ไม่มีใบอนุญาตหรือข้อยกเว้นของ FDA อาจล่าช้าหรือถูกปฏิเสธที่ศุลกากร ดังนั้นโปรดตรวจสอบข้อกําหนดทั้งหมดก่อนทำการจัดส่ง
กฎระเบียบการนําเข้าของประเทศไทย: สินค้าต้องห้ามและสินค้าต้องกำกัด
DHL ไม่อนุญาตให้จัดส่งสินค้าหลายรายการไม่ว่าในกรณีใด ๆ หลังจากการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนโดยทีมปฏิบัติการ ทีมกฎหมาย และทีมจัดการความเสี่ยง ซึ่งสินค้าเหล่านี้หมายรวมถึงสัตว์ วัสดุอันตรายหรือติดไฟได้ และยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
ดูรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าต้องกำกัดหรือห้ามนําเข้าหรือส่งออกโดยทางการของไทย และต้องได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่
เปลี่ยนแปลงข้อกำหนดเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับนำเข้าสินค้ามาในประเทศไทย
ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2567 สินค้านําเข้าที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1-1,500 บาท (CIF - Cost, Insurance, and Freight) จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งไม่เคยเรียกเก็บมาก่อน
กรมศุลกากรไทยได้ขอความร่วมมือจากผู้ให้บริการโลจิสติกส์ รวมถึงดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส เพื่อเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและส่งมอบให้กับกรมสรรพากร
คลิกที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม และดูว่าการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดนี้จะส่งผลต่อธุรกิจของคุณอย่างไร
ค่าขนส่ง
สินค้าเชิงพาณิชย์ที่นําเข้าทั้งหมดจะต้องเสียอากรศุลกากรและภาษีตามระบบพิกัดศุลกากร (Harmonized System Code - HS Code) เว้นแต่จะได้รับการยกเว้น โดยทั่วไปผู้นําเข้าที่ลงทะเบียนไว้ (เช่น ธุรกิจของคุณหรือผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่คุณเลือก) จะเป็นผู้ชําระอากรและภาษีขาเข้า
คุณสามารถค้นหาค้นหาพิกัดศุลกากร (HS code) ที่ถูกต้องสำหรับการจัดส่งของคุณได้ง่ายๆ ผ่าน MyGTS (My Global Trade Services) ของ DHL ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและไม่มีค่าใช้จ่ายที่จะช่วยให้คุณนำทางในทุกแง่มุมของการจัดส่งระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการคำนวณต้นทุนสินค้าในประเทศใดก็ได้ เช่น ต้นทุนสินค้า ภาษีศุลกากร และค่าขนส่ง ช่วยให้คุณปรับปรุงกลยุทธ์ด้านราคาและให้ความโปร่งใสแก่ลูกค้าของคุณเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการจัดส่ง
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญของ DHL สําหรับการจัดส่งสินค้าไปยังประเทศไทย
- พิจารณาจัดส่งสินค้าของคุณด้วยบริการ DTP (Duty & Taxes Paid) ของดีเอชแอล แม้ว่าการชําระอากรและภาษีสําหรับการจัดส่งระหว่างประเทศมักจะเป็นความรับผิดชอบของผู้รับ ซึ่งก็คือลูกค้าของคุณ แต่ DTP จะออกใบแจ้งหนี้ธุรกิจของคุณเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายแทน ซึ่งหมายความว่าลูกค้าของคุณจะไม่ได้รับค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเมื่อพัสดุมาถึง ซึ่งอาจทําให้ความคิดเห็นของพวกเขาที่มีต่อแบรนด์ของคุณเสียหายได้
- คุณสามารถค้นหาพิกัดศุลกากรที่ถูกต้องสําหรับการจัดส่งของคุณได้อย่างง่ายดายผ่าน MyGTS (My Global Trade Services) ของ DHL ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและไม่มีค่าใช้จ่ายที่จะช่วยให้คุณนำทางในทุกแง่มุมของการจัดส่งระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการคำนวณต้นทุนสินค้าในประเทศใดก็ได้ เช่น ต้นทุนสินค้า ภาษีศุลกากร และค่าขนส่ง ช่วยให้คุณปรับปรุงกลยุทธ์ด้านราคาและให้ความโปร่งใสแก่ลูกค้าของคุณเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการจัดส่ง
- มอบประสบการณ์การจัดส่งที่สะดวกสบายที่สุดให้กับลูกค้าของคุณด้วยการจัดส่ง On-Demand ของ DHL ช่วยสร้างความประทับใจให้ลูกค้าของคุณตั้งแต่การจัดส่งครั้งแรก
คุณต้องส่งสินค้าไปยังประเทศไทยใช่ไหม
คุณมาถูกที่แล้ว! เราทราบดีว่าแนวทางข้างต้นอาจดูยุ่งยากเล็กน้อย แต่การร่วมมือกับ DHL Express จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งระหว่างประเทศ เราจะช่วยเหลือคุณตลอดขั้นตอนศุลกากรทั้งหมดเพื่อให้การจัดส่งของคุณไม่เกิดความล่าช้า แล้วขายสินค้าไปทั่วโลกกับ DHL กัน!
เริ่มต้นการเดินทางของคุณที่นี่1 – การบริหารการค้าระหว่างประเทศ 2024
2 – สถิติ, 2024
3 – การบริหารการค้าระหว่างประเทศ 2024
5 – บริแทนนิกา 2023
6 – SimilarWeb, 2024
7, 8, 9, 10 – รายงาน We Are Social & Meltwater, 2024