DHL Express และ สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ลงนามสัญญาขยายความร่วมมือการขนส่งทางอากาศ ข้อตกลงครั้งนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งของ DHL Express ในการขยายเครือข่ายการขนส่งทางอากาศข้ามทวีป
- DHL Express จะนำเครื่องบิน Boeing 777 จำนวน 5 ลำ มาใช้ในการขนส่งร่วมกับสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ผ่านการลงนามสัญญาการปฏิบัติงานการบินและการซ่อมบำรุง (Crew and Maintenance agreement)
- เครื่องบิน 2 ลำแรก จะส่งมอบในเดือนกรกฎาคม และตุลาคม 2565
- เคน ลี กล่าว “สัญญาฉบับใหม่นี้จะการันตีความสามารถในเส้นทางการขนส่งที่สำคัญๆ ของเราจากสิงคโปร์”
- ลี ลิค ซิน กล่าว “การปฏิบัติการขนส่งทางอากาศครั้งใหม่จะช่วยส่งเสริมภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว”
DHL Express ลงนามสัญญาการปฏิบัติงานการบินและการซ่อมบำรุง (Crew and Maintenance agreement - CM) ร่วมกับสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส (SIA) เพื่อนำเครื่องบิน Boeing 777 จำนวน 5 ลำ มาใช้ในการขนส่งสินค้าทางอากาศ การทำสัญญานี้เป็นอีกก้าวหนึ่งของ DHL Express ในการขยายเครือข่ายการขนส่งทางอากาศข้ามทวีป เพื่อตอบสนองอุปสงค์ของตลาดการขนส่งด่วนระหว่างประเทศที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
“การนำเครื่อง Boeing 777 มาใช้ขนส่งทั่วโลกเพิ่มขึ้นอีกห้าลำ จะทำให้เราสามารถขยายเครือข่ายการขนส่งด่วนระหว่างภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกับอเมริกาได้ สิ่งที่ตามมาภายหลังโรคระบาดก็คือเรามองเห็นโอกาสการเติบโตอย่างเข้มแข็งในเส้นทางการค้าผ่านมหาสมุทรแปซิฟิก ด้วยการร่วมมือกับสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เราเห็นโอกาสดีในการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับพาร์ทเนอร์ระยะยาว ซึ่งมีค่านิยมแบบเดียวกันกับเรา และมีการปฏิบัติงานที่ได้มาตรฐานสูง” ทราวิส ค็อบบ์ EVP Global Network Operations and Aviation ของ DHL Express กล่าว
ฝูงบินใหม่จะช่วยสนับสนุนความร่วมมือด้านการขนส่งระหว่างประเทศของ DHL Express กับสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส โดยมีฐานที่มั่นอยู่ที่ท่าอากาศยานชางกี ประเทศสิงคโปร์ และจะขนส่งสินค้าให้กับฮับเอเชียใต้ของ DHL Express เครื่องบินทั้งห้าลำจะปฏิบัติการบินโดยนักบินของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส บนเส้นทางบินสู่สหรัฐอเมริกาผ่านจุดต่างๆ ในเอเชียเหนือ โดยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส จะทำหน้าที่ดูแลการซ่อมบำรุงเครื่องบินด้วย
ข้อตกลงเริ่มแรกนี้ครอบคลุมระยะเวลากว่าสี่ปีและสามารถขยายอายุสัญญาได้ โดยส่วนหนึ่งของสัญญาระบุว่าจะมีการส่งมอบเครื่องบินลำแรกในเดือนกรกฎาคม 2565 และลำที่สองในเดือนตุลาคม 2565 ส่วนที่เหลืออีกสามลำจะส่งมอบภายในปี 2566
ลี ลิค ซิน Executive Vice President Commercial สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส กล่าวว่า “สัญญาในวันนี้ทำขึ้นบนความร่วมมือที่มีมายาวนานระหว่างสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส กับ DHL Express และยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การขนส่งทั่วโลกด้วยเครื่องบินใหม่จะช่วยส่งเสริมภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว นอกเหนือไปจากภาคธุรกิจหลักอื่นๆ ที่ให้ความวางใจใช้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศของ DHL Express การทำสัญญาครั้งนี้ยังเป็นการวางรากฐานให้กับความร่วมมือระหว่างสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส กับ DHL Express สามารถขยายได้อีกในอนาคต การที่เครื่องบินเหล่านี้มีฐานที่มั่นอยู่ที่ท่าอากาศยานชางกี ยังจะช่วยตอกย้ำสถานะของสิงคโปร์ในฐานะที่เป็นศูนย์ขนส่งสินค้าทางอากาศที่สำคัญและลอจิสติกส์ฮับสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตและพัฒนาประเทศด้วย”
“สัญญาฉบับใหม่นี้จะช่วยการันตีความสามารถด้านการขนส่งด่วนระหว่างประเทศจากสิงคโปร์ในเส้นทางที่สำคัญๆ ขณะที่เราเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างต่อเนื่องของการค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” เคน ลี ซีอีโอ ของ DHL Express เอเชียแปซิฟิก เน้นย้ำ “ฝูงบินใหม่จะช่วยให้เรามีความยืดหยุ่นสามารถขยายเส้นทางใหม่ๆ ได้มากขึ้น และเป็นการใช้เครื่องบินของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุดในเวลาที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถคาดเดาได้ หรืออุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างกะทันหัน”
DHL Express ลงทุนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สอดรับกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการขนส่งระหว่างประเทศที่ต้องแข่งกับเวลา ปัจจุบัน DHL Express มีเครื่องบินมากกว่า 320 ลำ ให้บริการขนส่งทั่วโลกครอบคลุมจุดหมายปลายทาง 220 ประเทศ ฝูงบิน Boeing 777 ใหม่ เป็นฝูงบินขนส่งสินค้าแบบสองเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด บินเป็นระยะทางไกลที่สุด และมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะส่งผลดีให้แก่เป้าหมายด้านความยั่งยืนของ DHL โดยช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 18% เมื่อเทียบกับการใช้เครื่อง B747-400s แบบเดิม
ปัจจุบัน แผนกคาร์โก้ของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส มีเครือข่ายการปฏิบัติงานในจุดหมายปลายทางต่างๆ กว่า 90 แห่ง โดยใช้เครื่องบินขนส่งสินค้าร่วมกับการบรรทุกสินค้าใต้ท้องเครื่องบินโดยสาร (belly-hold) ของสายการบินสกู๊ต (Scoot) และสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เมื่อเร็วๆ นี้ สายการบินยังได้สั่งเครื่องบิน Airbus A350F เพิ่ม เพื่อใช้ในโปรแกรมต่ออายุฝูงบิน สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ยังคงลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการขนส่งสินค้า โดยได้รับประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นซึ่งขับเคลื่อนโดยการเติบโตของภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซ อาหารสด และยารักษาโรค