ส่งออกเครื่องประดับจากไทยไปตะวันออกกลาง

การค้าอัญมณีและเครื่องประดับระหว่างไทยและตะวันออกกลางเติบโตขึ้น ทะลุ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กลายเป็นคู่ค้าอันดับต้น ๆ ของไทยในภูมิภาคนี้ โดยในปีนั้นตัวเลขการส่งออกเครื่องประดับจากไทยไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพียงแห่งเดียวมีมูลค่ากว่า 265.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากรายงาน Global Trade Atlas ปี 2022 ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่อันดับที่ 21 ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีเครื่องประดับประเภททองคําและเพชรเจียระไนคิดเป็น 81% ของการส่งออกทั้งหมด นอกเหนือจากตลาดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) แล้ว เครื่องประดับจากไทยยังเป็นที่สนใจในตลาดอื่นๆ เช่น บาห์เรนที่นิยมเครื่องประดับที่ทำจากทองคํา และคูเวต ซึ่งประเทศไทยถือเป็นซัพพลายเออร์เครื่องประดับรายใหญ่เป็นอันดับห้า

ตลาดที่โดดเด่นอื่น ๆ ได้แก่ โอมาน ซึ่งประเทศไทยเป็นซัพพลายเออร์ส่งออกเครื่องอยู่ในอันดับที่ 13 โดยสินค้าส่งออกหลักได้แก่ เครื่องประดับที่ทำจากทองคำ เครื่องประดับแฟชั่น และอัญมณีสี เช่นเดียวกันกับ กาตาร์และซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้นําเข้าเครื่องประดับรายใหญ่จากไทย โดยเครื่องประดับที่ทำจากทองคําเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุด ถึงแม้ว่าซาอุดีอาระเบียเองจะเป็นผู้ผลิตเครื่องประดับรายใหญ่ แต่ก็ยังคงพึ่งพาการนําเข้าเป็นอย่างมาก เพื่อรองรับความต้องการเครื่องประดับที่เน้นงานออกแบบสมัยใหม่ โดย 89% เป็นการนําเข้าเครื่องประดับทองคําจากประเทศไทย

ความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นแฟ้นเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า ตะวันออกกลางเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับธุรกิจไทยในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ

อะไรทําให้เครื่องประดับไทยเป็นที่นิยม

อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของประเทศไทยได้รับการยอมรับทั่วโลกในด้านความละเอียดและงานฝีมือ โดยถูกพัฒนาอย่างครอบคลุมทุกขั้นตอนของการผลิต ตั้งแต่การตัดอัญมณีไปจนถึงการประดิษฐ์ทั้งเครื่องประดับแท้และเครื่องประดับเลียนแบบ กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าการสัดส่วนการส่งออกคิดเป็น 80% ของการผลิตของประเทศไทย ซึ่งตอกย้ำบทบาทของประเทศในฐานะผู้ผลิตหลักในตลาดเครื่องประดับทั่วโลก

ปัจจัยที่นําไปสู่ความสําเร็จนี้:

• งานฝีมืออันประณีต: ประเทศไทยมีชื่อเสียงระดับโลกในด้านเครื่องประดับทํามือที่ผสมผสานมรดกทางวัฒนธรรมเข้ากับการออกแบบที่ทันสมัย 
• ความเชี่ยวชาญด้านอัญมณี: ประเทศไทยเป็นผู้นําในการแปรรูปอัญมณีดิบ โดยใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น การอบชุบด้วยความร้อนเพื่อเพิ่มความแวววาวและมูลค่าของอัญมณีสี
• มีมาตรฐานสากล: ห้องปฏิบัติการทดสอบอัญมณีของประเทศไทยได้รับการยอมรับทั่วโลก เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความถูกต้องของเครื่องประดับ 
• ความยั่งยืนและจริยธรรม: ด้วยการให้ความสําคัญกับการปฏิบัติทางจริยธรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ค้าอัญมณีไทยจึงนําแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนมาใช้ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของโลก สิ่งนี้ทําให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาไม่เพียงแต่เป็นไปตามมาตรฐานที่มีคุณภาพสูง แต่ยังมาจากแหล่งที่มาอย่างมีความรับผิดชอบอีกด้วย อ่าน เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องประดับที่ยั่งยืนของประเทศไทยได้ที่นี่
• ความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทาน: ธุรกิจเครื่องประดับไทยให้ความสําคัญกับความโปร่งใสในการดําเนินงาน โดยแยกความแตกต่างระหว่างอัญมณีธรรมชาติและอัญมณีที่ผ่านการปรุงแต่งมาแล้ว ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจเรื่องความแท้ของอัญมณีให้กับผู้บริโภค

อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ตลาดเครื่องประดับไทยดึงดูดผู้ซื้อในตะวันออกกลาได้ นั่นคือเครื่องประดับทองคําแบบดั้งเดิม เครื่องประดับทองคําไทยมักมีระดับความบริสุทธิ์สูงถึง 99.9% ซึ่งแตกต่างจากเครื่องประดับทองคำทั่วๆไป

ประเทศไทยและตะวันออกกลางกระชับความสัมพันธ์ในการค้าเครื่องประดับอย่างไร

ประเทศไทยได้กระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับตะวันออกกลางผ่านโครงการริเริ่มต่างๆ ตัวอย่างเช่น สมาคมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียน (AGJA) และเจ้าหน้าที่ของรัฐได้มีส่วนร่วมกับผู้นําอุตสาหกรรมและผู้นําเข้าในภูมิภาค เพื่อส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ เช่น งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในกรุงเทพฯ และสร้างโอกาสให้กับ SMEs ของไทย ความพยายามเหล่านี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการสร้างความร่วมมือที่ยั่งยืนกับตลาดตะวันออกกลาง

ก้าวสําคัญในการกระชับความสัมพันธ์คือการทำข้อตกลงการค้าเสรีไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือ Thailand-UAE Comprehensive Economic Partnership Agreement (CEPA) ซึ่งได้รับการอนุมัติเมื่อต้นปี 2566 การยกเลิกภาษีนําเข้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยทําให้ผ่าน CEPA ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออก ของไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างมาก นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนการขนส่งระหว่างประเทศสําหรับธุรกิจไทยที่ส่งออกเครื่องประดับไปยังตะวันออกกลาง ทําให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดนี้ได้ง่ายขึ้น

แนวโน้มในอนาคตสำหรับตลาดเครื่องประดับในตะวันออกกลาง

ความยั่งยืนได้กลายเป็นปัจจัยสําคัญในการตัดสินใจของผู้บริโภคในตะวันออกกลาง จากการศึกษาของ Bain & Company พบว่า 64% ของผู้บริโภคในภูมิภาคมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเจเนอเรชั่น Z และเบบี้บูมเมอร์ให้ความสําคัญกับความยั่งยืนเป็นพิเศษ จากรายงานแนวโน้มความยั่งยืนปี 2023 90% ของผู้บริโภคในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน

ความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นนี้ถือเป็นโอกาสสําคัญสําหรับผู้ส่งออกเครื่องประดับไทย ผู้ค้าอัญมณีไทยให้ความสําคัญกับความยั่งยืนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยหลายรายนําแนวทางปฏิบัติในการจัดหาอย่างมีจริยธรรมมาใช้และสร้างความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานของตน การส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนเหล่านี้สามารถช่วยให้ธุรกิจไทยเชื่อมต่อกับผู้บริโภคในตะวันออกกลางที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้ดีขึ้น ซึ่งรวมถึง การใช้โลจิสติกส์สีเขียวทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทาน

แนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่อีกประการหนึ่งคือความต้องการอัญมณีสีที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ การส่งออกอัญมณีสีของไทยไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กําลังเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเครื่องประดับประดับอัญมณีในหมู่ชุมชนอาหรับและเอเชียใต้ แนวโน้มนี้เปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกไทยเติบโตได้ในตลาดอัญมณีสีตะวันออกกลาง

จัดส่งเครื่องประดับไทยไปยังตะวันออกกลางและที่อื่น ๆ

ตะวันออกกลางถือเป็นตลาดที่ทำกำไรมหาศาลสำหรับเครื่องประดับไทย แต่ตลาดต่างประเทศอื่นๆ ก็มีโอกาสมากมายเช่นกัน กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าการส่งออกเครื่องประดับของไทยมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดในประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง และเบลเยียม ซึ่งเน้นย้ำถึงความต้องการอัญมณีและเครื่องประดับไทยในระดับโลก

ธุรกิจต้องแน่ใจว่าพวกเขาเข้าใจกฎระเบียบในแต่ละประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับข้อจํากัดการนําเข้าและข้อกําหนดการรับรอง 

การทํางานร่วมกับพันธมิตรด้านการขนส่งระหว่างประเทศที่เชื่อถือได้ เช่น ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส เปิดโอกาสให้เข้าถึงโซลูชันโลจิสติกส์แบบครบวงจร ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าสินค้าเครื่องประดับที่มีมูลค่าสูงจะถูกจัดส่งไปยังตลาดต่างประเทศอย่างปลอดภัย  บริการของดีเอชแอล เอ็กซ์เพรสยังรวมถึงคําแนะนําจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิธีการจัดส่งเครื่องประดับจากประเทศไทย ซึ่งจะช่วยคุณผ่านขั้นตอนด้านระเบียบต่างๆ ตั้งแต่พิธีการทางศุลกากร ไปจนถึงเอกสารการจัดส่งที่จําเป็นสําหรับการส่งออก

การเปิดบัญชีธุรกิจ กับ DHL Express ช่วยให้เข้าถึงอัตราค่าจัดส่งระหว่างประเทศที่แข่งขันได้ พิธีการทางศุลกากรที่รวดเร็วขึ้น และความอุ่นใจที่เครื่องประดับของคุณจะมาถึงหน้าประตูบ้านลูกค้าอย่างปลอดภัย