อุตสาหกรรมการขนส่งในประเทศไทยกําลังเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินการจากวิธีแมนนวลไปสู่โซลูชันดิจิทัลอย่างรวดเร็ว แม้ว่าการเปลี่ยนไปใช้โลจิสติกส์บนดิจิทัลนี้จะนํามาซึ่งโอกาสใหม่ๆ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์สําหรับธุรกิจด้วย
รายงานปี 2023 ของ Kaspersky บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ระบุว่าประเทศไทยเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ในปีนั้น ภัยคุกคามทางไซเบอร์ เช่น การโจมตีแบบฟิชชิ่ง การละเมิดข้อมูล และแรนซัมแวร์สร้างความกังวลในการนำข้อมูลไปใช้บนดิจิทัลรวมถึงในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทุกวันนี้ด้วย เพราะถ้าพลาด ย่อมเกิดการหยุดชะงักในการดําเนินงานและการสูญเสียเงินมหาศาล ภัยคุกคามเหล่านี้ก่อให้เกิดอันตรายต่อธุรกิจที่ต้องพึ่งพาเครื่องมือดิจิทัลมาช่วยเรื่องการขนส่งเป็นอย่างมาก ดังนั้น การขนส่งที่ปลอดภัยจึงกลายเป็นสิ่งสําคัญสําหรับธุรกิจไทยที่ต้องทำชิปเมนต์บนระบบออนไลน์ไม่ว่าจะขนส่งภายในประเทศหรือต่างประเทศ
ความปลอดภัยทางไซเบอร์และความสําคัญที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของประเทศไทย
ด้วยรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะทำงานแบบรีโมทหรือไฮบริด ทำให้ธุรกิจขนาดใหญ่และเล็กในไทยเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านโปรโตคอลเดสก์ท็อประยะไกล (RDP) ที่อาจหละหลวม ตามรายงานของ Kaspersky ปี 2023 ประเทศไทยประสบกับการถูกโจมตี RDP 10.2 ล้านครั้งจาก 61 ล้านครั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หลายบริษัทในทุกอุตสาหกรรมมีความเสี่ยงในการเป็นเป้าโจมตีเพราะมีข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจํานวนมากที่ต้องจัดการบนออนไลน์ เช่น ข้อมูลลูกค้า รายละเอียดทางการเงิน และข้อมูลการให้บริการ ฯลฯ อาชญากรไซเบอร์อยากได้ข้อมูลเหล่านี้ จึงเป็นสาเหตุของการโจรกรรมข้อมูล
อย่าเพิ่งกังวล DHL Express พร้อมเป็นโลจิสติกส์พาร์ทเนอร์ที่ธุรกิจเชื่อถือได้ เพราะเรามีระบบป้องกันความเสี่ยงและมีมาตรการเพิ่มความปลอดภัยที่รัดกุม
DHL eSecure คืออะไร
DHL eSecure คือเกราะป้องกันบนโลกดิจิทัลที่ปกป้องไม่ให้บัญชีส่งออกหรือนำเข้าที่ลูกค้าสมัครใช้บริการกับ DHL Express ถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต DHL eSecure ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสําหรับการดําเนินงานด้านโลจิสติกส์ในประเทศไทย จัดการกับช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยให้การปกป้องที่จําเป็นแก่ธุรกิจเพื่อให้การดําเนินงานด้านการขนส่งได้อย่างปลอดภัยจากอันตรายและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
DHL eSecure ทำงานร่วมกับ MyDHL+ และ eMailShip ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดส่งออนไลน์หลักๆ ของ DHL Express ได้อย่างราบรื่น MyDHL+ คือแพลตฟอร์มการขนส่งที่ครอบคลุม ซึ่งช่วยธุรกิจจัดการกิจกรรมการขนส่งทั้งส่งออกและนำเข้าได้ตามต้องการ ในขณะที่ eMailShip นำเสนอตัวเลือกทางอีเมลสําหรับผู้ที่มองหาโซลูชันโลจิสติกส์ที่ตรงไปตรงมามากขึ้น และด้วยระบบความปลอดภัยของ DHL eSecure ธุรกิจของคุณจะสามารถจํากัดการเข้าถึงหมายเลขบัญชีส่งออกหรือนำเข้าของ DHL Express ได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเฉพาะผู้ใช้ที่กําหนดเท่านั้นที่มีสิทธิ์ดําเนินการด้านการจัดส่งได้
DHL eSecure มีข้อดีสําหรับธุรกิจไทยอย่างไรบ้าง
ประเทศไทยมีความจําเป็นที่ต้องใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างเร่งด่วน เพราะจากข้อมูลของ Statista มีรายงานว่ามีการรั่วไหลของชุดข้อมูลประมาณ 201,000 ชุดข้อมูลในประเทศไทยในไตรมาสที่สองของปี 2023 เพียงไตรมาสเดียว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ธุรกิจจะแสดงความกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ส่วนในภาคโลจิสติกส์ DHL eSecure ช่วยลดความเสี่ยงบนดิจิทัลด้วยฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนด้านโลจิสติกส์ ทั้งในการขนส่งในประเทศและระหว่างประเทศ
1. ระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่แข็งแกร่ง
ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจปัจจุบัน การทำรายการขนส่งทางระบบออนไลน์จำเป็นในการจัดการกิจกรรมโลจิสติกส์ประจําวัน การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่ละเอียดอ่อนต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั่วไป เช่น แรนซัมแวร์ มัลแวร์ และการโจมตี DDoS เป็นสิ่งสําคัญ ฟีเจอร์ของ DHL eSecure ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลทางธุรกิจและข้อมูลลูกค้าที่มีความอ่อนไหวสูง ด้วยรูปแบบการทำงานดังนี้
- การจัดการผู้ใช้แบบรวมศูนย์ (Centralized user management) จัดการผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตและสิทธิ์การเข้าถึงภายในแพลตฟอร์มเดียว MyDHL+
- การควบคุมแบบละเอียด (Granular control) อนุญาตหรือจํากัดการเข้าถึงฟังก์ชั่นเฉพาะในบัญชีส่งออกหรือนำเข้าของ DHL Express ตามบทบาท (Role) และความรับผิดชอบ (Responsibilities) ของผู้ใช้
ด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยดิจิทัลของ DHL eSecure เช่น การป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ธุรกิจของคุณสามารถลดความเสี่ยงของการละเมิดข้อมูลที่ละเอียดอ่อน รวมถึงข้อมูลลูกค้าและรายละเอียดทางการเงินได้อย่างมั่นใจ
2. สร้างความไว้วางใจของลูกค้า
ในขณะที่คนไทยจํานวนมากไม่ทราบถึงอันตรายจากการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์และองค์ประกอบด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อื่นๆ ตามที่ระบุไว้ในดัชนี Thailand Cyber Wellness Index 2024 ลูกค้ามักคาดหวังและไว้วางใจให้ธุรกิจจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงินของตนด้วยความระมัดระวังสูงสุด
DHL eSecure ช่วยให้ธุรกิจไทยสร้างความมั่นใจกับลูกค้าของตนได้ว่าจะมีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เข้มงวดเพื่อปกป้องข้อมูลของลูกค้าตลอดกระบวนการขนส่งในประเทศหรือระหว่างประเทศ เพื่อช่วยให้ธุรกิจ
- เพิ่มความภักดีของลูกค้า ส่งเสริมความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าโดยแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องข้อมูล
- ความได้เปรียบในการแข่งขัน สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งด้วยการนําเสนอความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในระดับที่สูงขึ้น
DHL Express ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูล จึงลงทุนกับ DHL eSecure ให้ธุรกิจได้มีประสบการณ์การขนส่งที่ปลอดภัย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
3. ความครบถ้วนสมบูรณ์ในการดําเนินงาน
นอกเหนือจากการปกป้องข้อมูลแล้ว DHL eSecure ยังสนับสนุนการดำเนินการด้านการขนส่งที่ครบถ้วนสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ เรายินดีนำเสนอสิ่งเหล่านี้ให้ธุรกิจคุณ
- การมองเห็นที่เพิ่มขึ้น รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกิจกรรมของผู้ใช้ รวมถึงประวัติการใช้งานและการอนุมัติในอดีต เพื่อระบุความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น
- กระบวนการอนุมัติที่คล่องตัว อนุมัติหรือปฏิเสธคําขอของผู้ใช้ใหม่ได้อย่างง่ายดาย
ด้วยคุณสมบัติความปลอดภัยทางไซเบอร์เหล่านี้ ธุรกิจคุณจะสามารถปรับกระบวนการจัดการผู้ใช้และลดเวลาที่ใช้ในงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยด้านโลจิสติกส์
4. เป็นไปตามระเบียบข้อกำหนด
นอกจากประโยชน์ในการดําเนินงานแล้ว DHL eSecure ยังช่วยให้ธุรกิจในประเทศไทยได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการคุ้มครองข้อมูลทั้งในและต่างประเทศ DHL eSecure นำเสนอระบบความปลอดภัยสําหรับการจัดการทุกด้านของการขนส่ง ทําให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของลูกค้าจะได้รับการจัดการตามระเบียบข้อกําหนดทางกฎหมาย
- การปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ของประเทศไทย และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ลดความเสี่ยงของบทลงโทษ ลดความเสี่ยงของบทลงโทษทางการเงิน ผลกระทบทางกฎหมาย และความเสียหายต่อชื่อเสียงที่อาจเป็นผลมาจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
DHL eSecure ช่วยลดความเสี่ยงจากการได้รับบทลงโทษที่มีค่าใช้จ่ายสูงและผลทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดข้อมูลหรือการไม่ปฏิบัติตามข้อกําหนด
5. ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและการป้องกันการสูญเสีย
ประโยชน์อย่างหนึ่งของ DHL eSecure ที่ธุรกิจอาจนึกไม่ถึงคือ การช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะการละเมิดข้อมูลหรือการล้มเหลวด้านความปลอดภัยอาจสร้างความเสียหายทางการเงินให้กับธุรกิจ ไม่เพียงแต่เกิดจากการสูญเสียโดยตรง แต่ยังรวมถึงค่าปรับที่อาจเกิดขึ้น ค่าใช้จ่ายทางกฎหมายและความเสียหายต่อชื่อเสียงของธุรกิจ DHL eSecure ช่วยคุณหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านี้ได้ด้วย
- ประสิทธิภาพการดําเนินงาน ปรับปรุงกระบวนการรักษาความปลอดภัย ประหยัดเวลาและทรัพยากรด้วยการจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ดี
- ปรับปรุงการจัดการความเสี่ยง ปรับปรุงกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์โดยรวมและปกป้องธุรกิจของคุณจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น
ถึงเวลาลดความเสี่ยงต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์และปกป้องผลกําไรของธุรกิจคุณแล้ว!
ให้ DHL Express ช่วยปกป้องธุรกิจจากความเสี่ยงทางไซเบอร์
DHL Express ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้ธุรกิจไทยด้วยการจัดการข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของธุรกิจและลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทั้งการส่งออกหรือนำเข้าให้ปลอดภัยด้วย DHL eSecure ด้วยฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อรักษาความปลอดภัยระดับสูง เช่น การจํากัดการเข้าถึงหมายเลขบัญชีธุรกิจเพื่อการส่งออกหรือนำเข้า การใช้งานร่วมกันอย่างราบรื่นกับโซลูชั่นเพื่อการขนส่งหลักของ DHL Express อย่าง MyDHL+ และ eMailShip และแนวทางรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เป็นไปตามระเบียบข้อกำหนดในท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด DHL Express จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่ากิจกรรมการนําเข้าและส่งออกของธุรกิจคุณจะดำเนินการด้วยความปลอดภัยและเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
เสริมเกราะให้ข้อมูลสำคัญด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ไปกับเรา เปิดบัญชีธุรกิจสำหรับส่งออกหรือนำเข้าของ DHL Express วันนี้ เพื่อรับบริการขนส่งระดับโลก พร้อมชิปปิ้งโซลูชั่นที่เหมาะกับธุรกิจคุณ และที่สำคัญ ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยดิจิทัลสําหรับธุรกิจออนไลน์ไปอีกขั้นด้วย
