#คําแนะนําเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซ

เพิ่มยอดขายของคุณผ่าน 7 ตลาดอีคอมเมิร์ซระดับโลก

5 นาทีอ่าน
facebook sharing button
twitter sharing button
linkedin sharing button
Smart Share Buttons Icon Share
เพิ่มยอดขายของคุณผ่าน 7 ตลาดอีคอมเมิร์ซระดับโลก

ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลอย่างในปัจจุบัน การทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่ภายในประเทศเท่านั้น แต่เปลี่ยนไปเป็นการค้าขายระหว่างประเทศที่เปิดโอกาสให้ธุรกิจต่างๆได้เข้าถึงลูกค้าใหม่ๆทั่วโลก ในขณะที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง การค้าขายแบบข้ามพรมแดนจึงการเป็นช่องทางการทำธุรกิจที่สำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

บทความนี้จะนำคุณมาสำรวจตลาดอีคอมเมิร์ซชั้นนําระดับโลกที่ประสบความสําเร็จในการเพิ่มยอดระหว่างประเทศ พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับเอกลักษณ์ของแต่ละตลาดและมาดูว่าทำไมคุณควรต้องพิจารณาตลาดอีคอมเมิร์ซเหล่านี้เมื่อต้องการขยายธุรกิจของคุณไปสู่ระดับสากล

บทบาทของตลาดอีคอมเมิร์ซและประโยชน์ต่อธุรกิจ

ตลาดอีคอมเมิร์ซได้เข้ามามีบทบาทสําคัญต่อภาคธุรกิจ โดยทําหน้าที่เป็นเหมือนสะพานที่เชื่อมระหว่างธุรกิจและผู้บริโภค ผ่านการให้บริการแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์ที่ผู้ขายหลายรายสามารถแสดงสินค้าหรือบริการของตนได้ ตลาดเหล่านี้ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำธุรกิจโดยให้สิทธิประโยชน์หลายประการที่ขาดไม่ได้สําหรับผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ

ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้ตลาดอีคอมเมิร์ซคือ ธุรกิจไม่จําเป็นต้องลงทุนในเว็บไซต์แบบสแตนด์อโลนหรือโฮสติ้งบนคลาวด์ การสร้างและบํารุงรักษาเว็บไซต์ต้องอาศัยแรงงานและมีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับองค์กรขนาดเล็กหรือธุรกิจสตาร์ทอัพ ตลาดอีคอมเมิร์ซเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ด้วยการให้บริการแพลตฟอร์มที่พร้อมใช้งาน พร้อมคุณสมบัติที่ช่วยคุณในการทำธุรกิจให้ง่ายขึ้น เช่น การสร้างรายการสินค้า การจัดการสินค้าคงคลัง และช่องทางการชําระเงิน คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถเอาเวลาไปสนใจกับกับส่วนอื่นของธุรกิจได้มากขึ้น เช่น การปรับปรุงสินค้าให้มีคุณภาพและการทำการตลาดเพื่อโปรโมทแบรนด์ ในขณะที่ตลาดอีคอมเมิร์ซจะช่วยจัดการเรื่องทางเทคนิคสำหรับการขายออนไลน์ให้คุณเอง

ประโยชน์ที่สําคัญอีกประการหนึ่งในการขายผ่านตลาดอีคอมเมิร์ซคือการเข้าถึงฐานลูกค้าที่หลากหลายและกว้างขวางได้ทันที วิธีการขยายธุรกิจแบบดั้งเดิมโดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายระหว่างประเทศนั้นมักมาพร้อมกับความท้าทายหลายประการ เช่น การทําความเข้าใจตลาดท้องถิ่น ตลาดอีคอมเมิร์ซช่วยลดความซับซ้อนเหล่านี้โดยให้บริการแพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ซึ่งมีประโยชน์มากสําหรับธุรกิจที่ต้องการทดลองตลาดใหม่ๆหรือขยายตลาดเพราะธุรกิจเหล่านี้ไม่ต้องลงทุนหรือแบกภาระในการสำรวจกลุ่มผู้ซื้อจากทั่วโลก

สํารวจตลาดออนไลน์ชั้นนํา

เมื่ออีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้น ธุรกิจในประเทศไทยเองก็สามารถเข้าถึงผู้ซื้อโลกได้ง่ายขึ้น กุญแจสําคัญในการขยายธุรกิจนี้อยู่ที่การเลือกแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เหมาะสมซึ่งสอดคล้องกับธุรกิจและกลุ่มเป้าหมายของคุณ ต่อไปนี้เราจะให้คุณทำความรู้จักกับรายชื่อตลาดอีคอมเมิร์ซชั้นนําที่ธุรกิจไทยสามารถใช้ประโยชน์ได้

1. Etsy

Etsy เป็นตลาดอีคอมเมิร์ซระดับโลกที่เน้นขายสินค้าแฮนด์เมด สินค้าวินเทจ และอุปกรณ์งานฝีมือเป็นหลัก หากธุรกิจของคุณเชี่ยวชาญด้านงานฝีมือหรือผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์ Etsy ถือเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับธุรกิจคุณ เพราะฐานลูกค้าทั่วโลกของแพลตฟอร์มนี้เป็นกลุ่มคนที่ชื่อชอบและให้ความสําคัญกับความคิดสร้างสรรค์และความแตกต่างของสินค้า 

2. Amazon

Amazon เป็นตลาดยักษ์ใหญ่ในโลกอีคอมเมิร์ซและให้การเข้าถึงที่แทบจะไม่มีใครเทียบได้ในแง่ของฐานลูกค้า แพลตฟอร์มนี้เหมาะสําหรับผู้ขายชาวไทยที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายตั้งแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ความงาม โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ Amazon รวมถึงบริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่ง (Fulfillment services) ช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการสินค้าคงคลังและรับประกันการส่งมอบตรงเวลา

3. eBay

eBay เป็นอีกหนึ่งตลาดออนไลน์ระดับโลก ที่คุณสามารถขายอะไรก็ได้ตั้งแต่ ของเก่าไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สําหรับธุรกิจไทย eBay เหมาะกับการขายสินค้าใหม่และมือสอง อีกทั้งยังมีการประมูลซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแพลตฟอร์มนี้ในการดึงดูดลูกค้าและกระตุ้นยอดขา นอกจาก eBay ยังให้ราคาแบบคงที่อีกด้วย ด้วยวิธีนี้ผู้ซื้อสามารถซื้อสินค้าของคุณได้ทันทีโดยไม่ต้องเสนอราคาหรือรอให้การประมูลสิ้นสุดลง คุณยังสามารถแสดงรายการสินค้าได้หลายแบบในรายการเดียวโดยมีราคาคงที่ ทําให้คุณมีตัวเลือกและประโยชน์มากขึ้นเมื่อขายสินค้าของคุณ

4. Taobao

Taobao เป็นหนึ่งในตลาดออนไลน์ชั้นนําของจีนและเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาลีบาบา มีฐานลูกค้าจํานวนมากและเหมาะสําหรับธุรกิจไทยที่ต้องการขยายตลาดไปยังงประเทศจีน แพลตฟอร์มนี้มีหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงแกดเจ็ต

อย่างไรก็ตามแบรนด์ต่างประเทศสามารถเข้ามาขานสินค้าบนแพลตฟอร์มนี้ได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศจีนหรือเป็นพันธมิตรกับบริษัทจีนในท้องถิ่น เนื่องจาก Taobao ให้บริการลูกค้าชาวจีนเป็นหลักคุณจึงต้องจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในจีน ในท้องถิ่นหรือทํางานร่วมกับซัพพลายเออร์ในท้องถิ่น นอกจากนี้เว็บไซต์ของ Taobao ยังเป็นภาษาจีนซึ่งเป็นการบังคับให้คุณหรือผู้ร่วมธุรกิจของคุณต้องมีความเข้าใจในภาษาเพื่อตั้งค่าและดําเนินการบนแพลตฟอร์มอย่างมีประสิทธิภาพ

5. AliExpress

AliExpress อีกหนึ่งแพลตฟอร์มของ Alibaba Group เป็นตลาดออนไลน์ที่รองรับผู้ซื้อจากต่างประเทศ ธุรกิจไทยที่ต้องการขายสินค้า เช่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือของใช้ในบ้านจะพบว่าแพลตฟอร์มนี้เหมาะสมและดีที่สินสำหรับขายสินค้าไปยังต่างประเทศ

6. Carousell

Carousell เป็น ตลาดออนไลน์ของสิงคโปร์ สำหรับทั้งการขายแบบ B2B และ B2C ผ่านทั้งทางเว็บไซต์และมือถือ โดยมีผู้ใช้บริาการจากทั่วเอเชีย แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนี้มีเหมาะสําหรับธุรกิจไทยที่ต้องการขยายตลาดไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Carousell ใช้งานง่ายและเสนอวิธีง่ายๆ สําหรับองค์กรธุรกิจในการแสดงรายการโดยไม่ต้องมีขั้นตอนการตั้งค่าที่ซับซ้อน

7. Rakuten

Rakuten เป็นตลาดอีคอมเมิร์ซของญี่ปุ่นที่นําเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลาย หากธุรกิจในประเทศไทยของคุณสนใจที่จะเจาะตลาดญี่ปุ่น Rakuten ถือแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียง แพลตฟอร์มนี้ยังมีโปรแกรมสะสมคะแนนให้กับลูกค้าซึ่งช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์และแพลตฟอร์มได้อย่างดี ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สําหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างฐานลูกค้าในระยะยาว

เพิ่มการเติบโตของอีคอมเมิร์ซด้วย DHL Express

ในภาคอีคอมเมิร์ซที่มีการแข่งขันสูง DHL Express เข้ามามีบทบาทในฐานะพันธมิตรที่ดีสําหรับธุรกิจที่ต้องการขยายตลาดออนไลน์ ด้วยเครื่องมือการจัดส่งที่ทันสมัยจึงทำให้เราสามารถปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ด้านโลจิสติกส์ที่ตอบโจทย์ผู้ขายได้ ทั้งการติดตามสถานะพัสดุแบบเรียลไทม์ การจัดส่งสินค้าจํานวนมาก (bulk shipping) และอื่น ๆ คุณสมบัติเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทําให้ความต้องการในการจัดส่งทั้งหมดของคุณอยู่ภายใต้ระบบเดียวที่ใช้งานง่าย

นอกจากนี้ระบบโลจิสติกส์แบบบูรณาการ (integrated logistics system) ของเรายังรองรับตลาดอีคอมเมิร์ซหลายแห่ง การรวมกันนี้ช่วยลดความจําเป็นในการป้อนข้อมูลด้วยตนเองได้อย่างมาก ซึ่งจะช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพการดําเนินงาน ไม่ว่าคุณจะจัดส่งจากประเทศไทยไปยังสิงคโปร์หรือประเทศไหนๆก็ตาม

บริการ จัดส่ง แบบออนดีมานด์ (ODD) ของ DHL Express เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่พลิกโฉมวงการ ซึ่งช่วยให้กระบวนการจัดส่งมีความยืดหยุ่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มันช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและลดการส่งมอบที่ล้มเหลวและเพิ่มผลกําไรของคุณในที่สุด

ด้วยโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมทั้งหมดของเรา DHL Express Thailand จึงกลายเป็นพันธมิตรสําหรับธุรกิจที่มุ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดในตลาดอีคอมเมิร์ซต่างๆ เปิดบัญชีธุรกิจกับ DHL Express วันนี้และเริ่มก้าวแรกสู่การขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณในตลาดต่างประเทศ