#คําแนะนําเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซ

คู่มือการส่งออกสินค้าจากไทยไปสหราชอาณาจักร

8 นาทีอ่าน
facebook sharing button
twitter sharing button
linkedin sharing button
Smart Share Buttons Icon Share
คู่มือการส่งออกสินค้าจากไทยไปสหราชอาณาจักร

ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร (UK) มีหลากหลายแง่มุม ทั้งด้านเศรษฐกิจ การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและความร่วมมือทางการค้าที่เจริญรุ่งเรืองซึ่งเติบโตขึ้นทุกปี ในขณะที่การค้าทั่วโลกขยายตัวและพัฒนาขึ้น การทําความเข้าใจความซับซ้อนของการส่งออกและการจัดส่งไปยังอังกฤษ รวมถึงสหราชอาณาจักรทั้งหมด ตั้งแต่อากรและภาษีไปจนถึงเอกสารและข้อจํากัด กลายเป็นรากฐานที่สําคัญของการส่งออกสินค้าให้สําเร็จ คู่มือฉบับสมบูรณ์นี้จะสํารวจความซับซ้อนเหล่านี้และวิธีที่คุณจะกำหนดทิศทางการค้าข้ามพรมแดนของคุณเองได้ 

ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร

รากฐานทางประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ทางการค้าของไทยและสหราชอาณาจักรมีมาหลายศตวรรษ ซึ่งเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสําหรับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจร่วมสมัย ในช่วงสี่ไตรมาสที่นําไปสู่สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2023 ความสัมพันธ์นี้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก โดยการค้าสินค้าและบริการทั้งหมด (การส่งออกและการนําเข้า) ระหว่างสหราชอาณาจักรและไทยสูงถึง 6.1 พันล้านปอนด์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 25.7% หรือ 1.3 พันล้านปอนด์ในราคาปัจจุบัน จากช่วงเวลาเดียวกัน ณ ช่วงสิ้นสุดไตรมาสที่ 1 ปี 2022

จากมูลค่าที่กล่าวข้างต้น 6.1 พันล้านปอนด์ คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าจากไทย 3.5 พันล้านปอนด์ เพิ่มขึ้น 23.1% หรือ 666 ล้านปอนด์ ในช่วงเวลานี้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 42 ของสหราชอาณาจักร คิดเป็น 0.4% ของการค้าทั้งหมดของสหราชอาณาจักร ในเดือนเมษายน 2023 การนําเข้าสินค้าอันดับต้นๆ ของสหราชอาณาจักรจากประเทศไทย ได้แก่ เนื้อสัตว์สําเร็จรูปอื่นๆ (41.4 ล้านปอนด์) อัญมณี (15.2 ล้านปอนด์) โทรศัพท์ (9.63 ล้านปอนด์) เครื่องปรับอากาศ (6.16 ล้านปอนด์) และปั๊มลม (5.63 ล้านปอนด์)

ความร่วมมือและข้อตกลงต่างๆ เช่น คณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (JETCO) ได้กระตุ้นการเติบโตนี้ และจบลงด้วยเหตุการณ์สําคัญ เช่น Enhanced Trade Partnership (ETP) ความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นเน้นย้ำถึงผลประโยชน์ร่วมกันและวัตถุประสงค์การเติบโตร่วมกันซึ่งยังคงส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างสองประเทศนี้

การก่อตั้ง ETP ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสําคัญในการเสริมสร้างการค้าระหว่างสองประเทศ จากกรอบการทํางานที่กําหนดโดย JETCO นั้น ETP มีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนของการค้าและการลงทุนในหลายๆ ด้าน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ วัตถุประสงค์เฉพาะ ได้แก่ การเพิ่มปริมาณการค้า อํานวยความสะดวกในการทําธุรกรรมที่ราบรื่นยิ่งขึ้น และสํารวจพื้นที่ที่มีศักยภาพสําหรับการทํางานร่วมกัน

ที่สําคัญกว่านั้น ETP กําหนดเวทีสําหรับข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ในอนาคต FTA จะถือเป็นความสําเร็จครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งอาจขจัดหรือลดอุปสรรคทางการค้าและภาษีศุลกากร ซึ่งจะช่วยขยายผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจสําหรับสหราชอาณาจักรและไทย ความก้าวหน้าของข้อตกลงดังกล่าวเน้นย้ำถึงความซับซ้อนของอากร ภาษี และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ เนื่องจากทั้งสองประเทศพยายามกําหนดภูมิทัศน์ทางการค้าที่คึกคัก มีสีสัน ให้สอดคล้องกับเทรนด์การขยายและพัฒนาการค้าโลก

อากร ภาษี และความเข้าใจ De Minimis

เมื่อส่งของไปต่างประเทศ หรือส่งจากไทยไปอังกฤษ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเข้าใจองค์ประกอบทางการเงินต่างๆ เกี่ยวข้องกับการส่งออกและนำเข้าสินค้าข้ามพรมแดน สิ่งนี้ครอบคลุมอากร ภาษี และกฎ ระเบียบ ข้อปฏิบัติ  ทั้งหมดนี้สามารถส่งผลกระทบต่อทั้งต้นทุนและกิจกรรมการซื้อขาย และขนส่งระหว่างประเทศที่ราบรื่น

ภาษีศุลกากร

ภาษีศุลกากรในสหราชอาณาจักรรวมถึงอังฤกษ ถูกกําหนดโดยมูลค่าตลาดของสินค้านําเข้า มูลค่า De Minimis เป็นเกณฑ์ขั้นต่ำว่าสามารถนําเข้าสินค้าเข้าไปได้โดยไม่ต้องเสียอากรหรือภาษี ในสหราชอาณาจักร มูลค่านี้คือ 135 ปอนด์ การจัดส่งที่สูงกว่ามูลค่านี้จะต้องเสียภาษีศุลกากร สําหรับการนำเข้าของขวัญ กฎจะแตกต่างกัน กล่าวคือ ภาษีมูลค่าเพิ่มนําเข้า ใช้สําหรับสินค้าที่มีมูลค่ามากกว่า 39 ปอนด์ และหากมูลค่าของของขวัญมากกว่า 135 ปอนด์ จะมีทั้งภาษีศุลกากรและภาษีมูลค่าเพิ่มในการนําเข้า การตระหนักถึงเกณฑ์นี้เป็นกุญแจสําคัญสําหรับการค้าระหว่างประเทศและเป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่แต่ละประเทศกำหนดไว้ 

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

โดยทั่วไปสหราชอาณาจักรจะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรามาตรฐาน 20% ต่อรายการ แต่มีข้อยกเว้น ตัวอย่างเช่น การจัดส่งที่มีมูลค่าน้อยกว่า 39 ปอนด์จะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 

ภาษีสรรพสามิต

สินค้าเฉพาะ เช่น ยาสูบและแอลกอฮอล์ ต้องเสียภาษีสรรพสามิตในสหราชอาณาจักร มีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์ โดยมีการจําแนกประเภทที่แตกต่างกันสําหรับเบียร์ ไซเดอร์ ไวน์ และสุรา แต่ละประเภทมีอัตราภาษีสรรพสามิตที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการวางแผนการค้า

การทําความเข้าใจองค์ประกอบเหล่านี้ในมิติของการเงิน ตั้งแต่เรื่องภาษี ศุลกากรและภาษีมูลค่าเพิ่ม ไปจนถึงภาษีสรรพสามิต และเกณฑ์ขั้นต่ำในการนำเข้าโดยไม่ต้องเสียภาษี (De Minimis) ช่วยอํานวยความสะดวกในการวางแผนการค้าระหว่างประเทศและเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ กรอบการทํางานที่ซับซ้อนนี้ต้องการความตระหนักรู้และความเชี่ยวชาญเพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับมาตรฐานสากลและกฎหมายภายในประเทศนั้นๆ นี่คือกุญแจสู่ความสําเร็จในการสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าที่กว้างขึ้นระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร

คุณสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับอัตราภาษีศุลกากร ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสรรพสามิตได้จากเว็บไซต์การค้าอย่างเป็นทางการของสหราชอาณาจักร ซึ่งนําเสนอข้อมูลโดยละเอียดสําหรับการทําความเข้าใจเชิงลึกและการปฏิบัติตามข้อกําหนด

ทําความเข้าใจกฎ ระเบียบและข้อบังคับของสหราชอาณาจักรเกี่ยวกับสินค้าต้องห้ามและต้องกำกัด

การทำความเข้าใจกฎและระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับสินค้าต้องห้ามและสินค้าต้องกำกัดเป็นสิ่งสําคัญสําหรับการค้าระหว่างประเทศกับสหราชอาณาจักร ต้องทำตามอย่างเคร่งครัดเพื่อความถูกต้องทั้งในทางกฎหมายและส่งเสริมการปฏิบัติทางการค้าที่มีความรับผิดชอบ

สินค้าต้องห้าม (Prohibited goods)

สินค้าบางอย่างถูกห้ามโดยศุลกากรของสหราชอาณาจักรไม่ให้นำเข้าประเทศโดยสิ้นเชิง และหากตรวจพบโดยศุลกากรจะนำไปสู่การยึดสินค้า ตัวอย่างของสินค้าต้องห้ามที่ห้ามนำเข้าไปสู่สหราชอาณาจักร ได้แก่

  • ยาควบคุม รวมถึงยาเสพติดและสารควบคุม
  • อาวุธรุนแรง เช่น มีดสะบัด มีดสั้น ดาบ หลอดเป่ากระสุนอาวุธ กระบองและอื่นๆ
  • สเปรย์ป้องกันตัว ตัวอย่างเช่น สเปรย์พริกไทยและก๊าซ CS
  • สัตว์และพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์คุ้มครอง
  • เพชรดิบ เพชรที่ยังไม่ผ่านกระบวนการและไม่ผ่านการรับรอง
  • เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและวัตถุลามกอนาจาร เช่น หนังสือ นิตยสาร ภาพยนตร์ และดีวีดีที่เฉพาะเจาะจง
  • การนําเข้าเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนมสำหรับบริโภคส่วนบุคคล โดยทั่วไปรายการอาหารเหล่านี้เป็นสิ่งต้องห้ามเมื่อนําเข้าจากประเทศนอกสหภาพยุโรปส่วนใหญ่

สินค้าต้องกำกัด (Restricted goods)

สินค้าบางอย่างไม่ได้ถูกห้ามนำเข้า แต่มีเงื่อนไขในการนำเข้าและถูกจํากัดการนำเข้าโดยศุลกากรของสหราชอาณาจักร ซึ่งต้องมีใบอนุญาตพิเศษหรือปฏิบัติตามกฎระเบียบเฉพาะ

  • อาวุธปืน วัตถุระเบิด และกระสุน สิ่งเหล่านี้ต้องมีใบอนุญาตพิเศษในการนําเข้าไปในสหราชอาณาจักร
  • อาหารและผลิตภัณฑ์จากพืชบางชนิด จะถือเป็นสินค้าต้องกำกัด (มีเงื่อนไขการนำเข้า) หากไม่ได้ปราศจากศัตรูพืชและโรค ไม่ใช่เพื่อการใช้งานส่วนตัวหรือไม่ได้ปลูกในสหภาพยุโรป
  • สินค้าที่ละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา การครอบครองสําเนาภาพยนตร์ เพลง หรือทรัพย์สินทางปัญญาอื่นๆ ที่ 'ละเมิดลิขสิทธิ์' อาจนําไปสู่การยึดและดําเนินคดี

ข้อควรพิจารณาพิเศษสําหรับ CITES

นอกจากนี้ สินค้าที่ได้รับการคุ้มครองตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) จําเป็นต้องมีใบอนุญาตพิเศษหรือใบรับรองจากศุลกากรเพื่อนําเข้าสหราชอาณาจักร หมวดหมู่นี้รวมถึง

  • อาหารและผลิตภัณฑ์ความงามบางชนิด โดยเฉพาะอาหารที่ได้จากสัตว์ใกล้สูญพันธุ์
  • เครื่องหนัง ขนสัตว์จากสัตว์หายาก รายการที่ทําจากสัตว์คุ้มครอง
  • เครื่องดนตรีไม้ ของท่องเที่ยว ยาบางชนิด สิ่งเหล่านี้อาจอยู่ภายใต้การคุ้มครองของไซเตส

รายการสินค้าต้องห้าม (Prohibited goods) และสินค้าต้องกำกัด (Restricted goods) เป็นส่วนสําคัญของกฎ ระเบียบทางการค้าของสหราชอาณาจักร ความเข้าใจที่ถูกต้องและการปฏิบัติตามกฎเหล่านี้อย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งสําคัญยิ่งสําหรับทุกคนที่มีส่วนร่วมในการค้ากับสหราชอาณาจักร ผู้ที่วางแผนจะนําเข้าหรือส่งออกสินค้าไปยังสหราชอาณาจักรควรศึกษาแนวทางบนเว็บไซต์การค้าอย่างเป็นทางการของสหราชอาณาจักร และถ้าให้ดี ควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านศุลกากรที่มีประสบการณ์เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามข้อกําหนดอย่างสมบูรณ์ เพื่อช่วยส่งเสริมการปฏิบัติทางการค้าระหว่างประเทศที่มีจริยธรรมและถูกกฎหมาย

คู่มือและเอกสารที่ต้องใช้ในการส่งของไปต่างประเทศ

การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนสำหรับการส่งของไปต่างประเทศสำคัญมากสำหรับการค้าระหว่างประเทศ ต้องใช้ความใส่ใจในรายละเอียดและทำอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าจากประเทศไทยไปยังสหราชอาณาจักรมีความซับซ้อน การทำความเข้าใจเรื่องเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ประกอบการส่งออก จะช่วยอํานวยความสะดวกในการดําเนินพิธีการทางศุลกากรให้ที่ราบรื่น เป็นการปฏิบัติตามข้อกําหนดทางกฎหมายของประเทศนั้นๆ เอกสารต่อไปนี้คือเอกสารที่จำเป็นในการส่งของไปต่างประเทศ

ใบกํากับสินค้าพาณิชย์ (Commercial invoice)

ใบกํากับสินค้าโดยละเอียดที่มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อ ผู้ขาย สินค้า ราคา เงื่อนไขการจัดส่ง และการชําระเงิน ต้องสอดคล้องกับข้อกําหนดใบแจ้งหนี้เฉพาะของทั้งประเทศไทยและสหราชอาณาจักรซึ่งยึดในมาตรฐานสากลเป็นหลัก

รายการบรรจุภัณฑ์ (Packing list)

เอกสารนี้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ ของภายใน น้ำหนัก และขนาดของสินค้า ช่วยในการดําเนินพิธีการทางศุลกากรและทําให้แน่ใจว่าการจัดส่งได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมระหว่างการขนส่ง

ใบรับรองแหล่งกําเนิดสินค้า (Certificate of Origin)

เอกสารนี้กําหนดโดยประเทศผู้นําเข้าบางประเทศรวมถึงสหราชอาณาจักรเอกสารนี้จะตรวจสอบประเทศที่ผลิตสินค้าและอาจส่งผลต่อการคิดภาษีของผลิตภัณฑ์ด้วย

ใบตราส่งสินค้า (Bill or Lading) หรือใบตราส่งสินค้าทางอากาศ (air waybill/ waybill)

ขึ้นอยู่กับโหมดการขนส่ง เอกสารนี้ทําหน้าที่เป็นสัญญาระหว่างผู้ขนส่งและผู้จัดส่งโดยสรุปข้อกําหนดและเงื่อนไขของการขนส่ง

ใบอนุญาตส่งออก (Export licence) และใบอนุญาต (Permit)

สําหรับผลิตภัณฑ์หรือหมวดหมู่เฉพาะ เช่น สินค้าควบคุมหรือสินค้าที่อยู่ภายใต้สนธิสัญญาระหว่างประเทศ อาจจําเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทยและสหราชอาณาจักร

ใบรับรองด้านสุขภาพและความปลอดภัย (Health and safety certification)

สําหรับอาหาร ยาและผลิตภัณฑ์ที่ละเอียดอ่อนอื่นๆ อาจจําเป็นต้องมีการรับรองด้านสุขภาพและความปลอดภัยเพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของประเทศผู้นําเข้า

ใบรับรองการประกันภัย (Insurance certificate)

เอกสารนี้ครอบคลุมการประกันสําหรับการจัดส่งและอาจจําเป็นต้องพิสูจน์ว่าการประกันได้รับการค้ำประกันภายใต้เงื่อนไขการขาย

การสําแดงการนําเข้าและส่งออก (Import and export declarations)

การสำแดงเหล่านี้ต่อหน่วยงานศุลกากรที่เกี่ยวข้องเป็นการให้รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าที่นําเข้าหรือส่งออก รวมถึงการจําแนกประเภท มูลค่า และปลายทาง เพื่อให้สามารถประเมินอากรและภาษีได้อย่างเหมาะสม

เอกสารเฉพาะทาง

สําหรับการค้าระหว่างประเทศ อาจจำเป็นต้องใช้เอกสารพิเศษ ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า ตัวอย่างเช่น หากคุณกําลังนําเข้าหรือส่งออกโดยใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นวัสดุจากไม้ เช่น พาเลทหรือลัง ต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน ISPM15 ที่กําหนดโดยคณะกรรมาธิการป่าไม้เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของศัตรูพืชที่เป็นอันตราย การตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีเอกสารที่ถูกต้องช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับขั้นตอนศุลกากรและเป็นการการันตีว่าคุณได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ประเทศนั้นๆ กำหนดไว้

เอกสารเหล่านี้ช่วยให้เกิดความโปร่งใสในการปฏิบัติตามข้อกําหนดและเป็นการอํานวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศอย่างราบรื่น อย่าลืมมองหาพาร์ทเนอร์ด้านโลจิสติกส์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง DHL Express ช่วยคุณได้ ให้คุณส่งของไปต่างประเทศอย่างมั่นใจ ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

เปิดประตูสู่การค้าโลกและขยายธุรกิจให้เติบโตไปกับ DHL Express

โซลูชั่นการขนส่งระหว่างประเทศของ DHL Express มอบความคุ้มค่าสูงสุดสําหรับผู้ที่ต้องการขยายธุรกิจไปนอกประเทศ โดยเฉพาะนำเข้าและส่งออกระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักร หรือแม้แต่ประเทศอังกฤษ เราช่วยคุณมองหาวิธีที่ประหยัดที่สุดในการส่งพัสดุไปต่างประเทศ ไปจนถึงการทําความเข้าใจต้นทุนการจัดส่งที่ครอบคลุม รวมถึงเรื่องภาษี ภาษีศุลกากร และค่าธรรมเนียมต่างๆ บริการที่หลากหลายของ DHL Express ครอบคลุมทั้งหมดและตรงความต้องการของธุรกิจทุกขนาด

สมัครบัญชีธุรกิจกับ DHL Express เพื่อให้ผู้นําระดับโลกด้านการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ พาคุณเปิดประตูสู่ประสิทธิภาพ นวัตกรรม ความน่าเชื่อถือ และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ในโลกยุคโลกาภิวัตน์ที่เชื่อมต่อถึงกันในปัจจุบัน การ,มองหาพาร์ทเนอร์ที่ใช้และใช้ความเชี่ยวชาญให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะช่วยคุณขยายธุรกิจได้ไกลกว่าเดิม การขนส่งระหว่างประเทศอาจฟังดูซับซ้อน และท้าทาย แต่ถ้าคุณจัดการได้ นั่นหมายถึงเส้นทางสู่ความสําเร็จในระยะยาว