ด้วยความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตระหว่างประเทศไทยและซาอุดีอาระเบีย นักธุรกิจไทยมีโอกาสบุกตลาดที่มีศักยภาพสูงแห่งนี้มากขึ้น ในปี 2566 มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศพุ่งสูงถึงประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากปีก่อนหน้า สำคัญมากสำหรับผู้ส่งออกไปยังซาอุดีอาระเบียจําเป็นต้องมีความเข้าใจขั้นตอนโลจิสติกส์ตั้งแต่จากประเทศไทยและกฎระเบียบการนําเข้าของซาอุดีอาระเบีย
ในบทความจะกล่าวถึงภาพรวมของตลาดซาอุ รวมถึงความท้าทายที่สําคัญที่ผู้ส่งออกไทยต้องเผชิญ ตั้งแต่การนําทางขั้นตอนศุลกากรของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย (KSA) ไปจนถึงการสร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้าท้องถิ่น และด้วยความเข้าใจความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมก็เป็นตัวช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถเข้าสู่ตลาดซาอุดีอาระเบียได้อย่างราบรื่น
ทำความเข้าใจตลาดซาอุดีอาระเบีย
ซาอุดีอาระเบียถือเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประมาณ 3.9 ล้านล้านบาท (ในปี 2022) โดยมีโอกาสทางธุรกิจสูงในหลายอุตสาหกรรม อาทิ
- อาหาร
- สิ่งทอ
- อิเล็กทรอนิกส์
สินค้าส่งออกของไทย โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอาหาร เป็นที่ต้องการอย่างมาก โดยมีมูลค่าการส่งออกกว่า 9 แสนล้านบาทต่อปี
ปัจจุบันซาอุดีอาระเบียมีความต้องการสินค้านำเข้าเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะ แผ่นใยไม้ ยางยาง และรถยนต์ ในขณะที่สินค้าส่งออกของไทยยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นด้วยการวางแผนที่เหมาะสมและให้สอดคล้องกับกฎระเบียบการนําเข้าของซาอุดีอาระเบีย เพื่อการบุกตลาดอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
การปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมและการทำการตลาดสำหรับผู้ซื้อในซาอุดีอาระเบีย
การเคารพวัฒนธรรมและหลักปฏิบัติทางศาสนาถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจที่ซาอุดีอาระเบีย หากขาดความเข้าใจทางวัฒนธรรมอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตลาดได้ นักธุรกิจไทยควรคำนึงถึงสิ่งสำคัญต่อไปนี้
- ปรับวัสดุทางการตลาดให้สะท้อนค่านิยมท้องถิ่น
- คำนึงถึงความสุภาพและมาตรฐานความเรียบร้อย
- ใช้ภาษาอาหรับในการโฆษณา และเน้นสื่อสารให้สอดคล้องค่านิยมท้องถิ่น เช่นหลักของศาสนาอิสลามและครอบครัว
การปรับแบรนด์ให้สอดคล้องกับบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมนอกจากจะช่วยทำให้แบรนด์ได้รับการยอมรับแล้ว ยังช่วยสร้างความไว้วางใจ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถทำให้แบรนด์ๆหนึ่งขยายตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลยุทธ์การตลาดที่สำคัญเพิ่มเติม ได้แก่ การส่งออกโดยตรงไม่ผ่านคนกลาง การสร้างความร่วมมือกับผู้ค้าปลีกท้องถิ่น และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ธุรกิจจํานวนมากเลือกที่จะเป็นพันธมิตรกับบริษัทโลจิสติกส์ในซาอุดีอาระเบียเพื่อลดความซับซ้อนของกระบวนการนำเข้า
การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรของซาอุดีอาระเบียจะช่วยให้ธุรกิจคุณประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ (เคล็ดลับ: ผู้ส่งออกไทยควรให้ความสำคัญและใช้เวลาในการพัฒนาความสัมพันธ์กับเหล่าพันธมิตร เช่นพบปะแบบตัวต่อตัวและความสัมพันธ์ส่วนตัว)
ข้อกําหนดด้านกฎหมายและกฎระเบียบสําหรับการส่งออกไปยังซาอุดีอาระเบีย
การนําทางกฎระเบียบการนําเข้าและข้อกําหนดด้านศุลกากรของซาอุดีอาระเบียอาจเป็นความท้าทายที่ไม่เหมือนใครสําหรับผู้ส่งออกไทย สิ่งสําคัญคือต้องมีความเชี่ยวชาญในเอกสารที่จําเป็น และปฏิบัติตามขั้นตอนศุลกากร สามารถลดความเสี่ยงของความล่าช้าหรือภาวะแทรกซ้อนระหว่างการผ่านพิธีการได้อย่างมาก
- เอกสารสำคัญ: ใบรับรองแหล่งกำเนิด ใบแจ้งหนี้ และใบกำกับการขนส่ง
- มาตรฐานการรับรองฮาลาล (จำเป็นสำหรับสินค้าอาหาร)
- ข้อกำหนดการออกแบบบรรจุภัณฑ์
- การใช้ฉลากและข้อความบนผลิตภัณฑ์เป็นภาษาอาหรับ
หน่วยงานสำคัญที่ควรรู้จัก ได้แก่ Saudi Standards, Metrology, and Quality Organization (SASO) กําหนดให้สินค้าทั้งหมดต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพผ่านการรับรอง เช่น เครื่องหมายคุณภาพของซาอุดีอาระเบีย และแพลตฟอร์ม SABER ที่ใช้สําหรับการลงทะเบียนและขั้นตอนตรวจปล่อยสินค้า (Clearance) สินค้าส่งออกจากประเทศไทยต้องได้รับการรับรองอย่างถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้า ค่าปรับ หรือปฏิเสธการนำเข้าที่อาจเกิดขึ้น
ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่เข้าใจตลาดซาอุดีอาระเบีย
การเลือกพาร์ทเนอร์ขนส่งที่เชื่อถือได้ถือเป็นหัวใจสำคัญในการส่งสินค้าระหว่างประเทศ เพื่อรับประกันว่าสินค้าจะเดินทางถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยและตรงเวลา ผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ไม่เพียงแต่ปกป้องการจัดส่งของคุณ แต่ยังช่วยลดความซับซ้อนของขั้นตอนโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอีกด้วย เมื่อประเมินผู้ให้บริการ ให้จัดลําดับความสําคัญของผู้ที่มีประวัติการขนส่งระหว่างประเทศไปและกลับจากประเทศไทย และมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับกฎระเบียบการนําเข้าและส่งออกของซาอุดีอาระเบีย ความเชี่ยวชาญนี้สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญในการหลีกเลี่ยงความล่าช้าที่มีค่าใช้จ่ายสูงปัญหาการปฏิบัติตามข้อกําหนดหรือปัญหาคอขวด ของศุลกากร
- ประวัติการที่น่าเชื่อถือ
- ความเชี่ยวชาญในการขนส่งระหว่างประเทศ
- ความเข้าใจกฎระเบียบการส่งออก-นำเข้าของไทยและซาอุดีอาระเบีย
- ความสามารถในการหลีกเลี่ยงปัญหาทางศุลกากร ความเชี่ยวชาญนี้สามารถลดด้านค่าใช้จ่ายที่เกิดจากความล่าช้าอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่าการใช้บริการการจัดส่งต่างประเทศที่ราคาถูกอาจดูน่าสนใจ แต่ความเชี่ยวชาญด้านกฏระเบียบการนำเข้าและความน่าเชื่อถือควรเป็นข้อพิจารณาอันดับต้น ๆ เสมอเพื่อให้ลูกค้าของคุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ผู้ให้บริการขนส่งที่มีชื่อเสียงมักมีบริการอื่นๆเพิ่มเติม เช่น การติดตามสถานะพัสดุReal-time นายหน้าศุลกากร และการบริการที่ปรับให้เหมาะกับคุณเพื่อจัดการกับสินค้าประเภทต่างๆ
ทำไมต้อง DHL Express ถึงเป็นตัวเลือกขนส่งอันดับหนึ่งสำหรับธุรกิจไทยที่ค้าขายไปซาอุดีอาระเบีย
สําหรับธุรกิจที่ต้องการส่งสินค้าจากประเทศไทยและซาอุดีอาระเบีย DHL Express คือคำตอบสำหรับคุณ มีโซลูชั่นการขนส่งออก-นำเข้าที่หลากหลาย บริการส่งพัสดุทุกประเภท ซึ่งรวมถึง การจัดส่งสินค้าที่มีน้ําหนักมาก พร้อมกับประสบการณ์ด้านพิธีศุลกากรกว่า 50 ปี มีเครือข่ายครอบคลุมทั้งในไทยและซาอุดีอาระเบีย รับรองว่าการจัดส่งของคุณจะเป็นไปกฏระเบียบและข้อกำหนดการนำเข้าของซาอุดีอาระเบีย
ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากลและพื้นที่ที่ครอบคลุมกว่า 220 ประเทศทั่วโลก ทําให้เราเป็นผู้ให้ริการการขนส่งที่ตอบโจทย์สําหรับธุรกิจที่ต้องการส่งสินค้าไปยังประเทศซาอุดิอาระเบียนและตะวันออกกลาง รับสิทธิประโยชน์มากมาย เพียงเปิดบัญชีกับ DHL Express วันนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดส่งสินค้าส่งออกของคุณรวดเร็ว เชื่อถือได้ และปลอดภัย