ส่งของจากไทยไปต่างประเทศด้วย MyDHL+ จาก DHL Express

ในปัจจุบัน ความต้องการการขนส่งจากไทยไปต่างประเทศที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้เพิ่มสูงขึ้น ด้วยเศรษฐกิจที่กําลังเติบโตและตลาดระหว่างประเทศที่ขยายตัว ธุรกิจและบุคคลทั่วไปจึงต้องการการจัดการการขนส่งที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเขา

แพลตฟอร์มส่งของไปต่างประเทศอย่าง MyDHL+ จาก DHL Express มีบทบาทสําคัญในการทำให้ประสบการณ์การขนส่งง่ายขึ้น ช่วยให้จัดการชิปเมนต์ได้ง่าย ติดตามการจัดส่งได้สะดวก และจัดการเรื่องเอกสารได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มาดูกันว่าการขนส่งจากไทยไปต่างประเทศเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง และแพลตฟอร์ม MyDHL+ ช่วยทำให้การส่งของไปต่างประเทศดีขึ้นได้อย่างไร

ความต้องการส่งของจากไทยไปต่างประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดส่งออกของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างมีนัยสําคัญ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการทั้งในและต่างประเทศ ทำเลที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ของประเทศ ภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง และอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซที่เฟื่องฟู มีส่วนสําคัญในการผลักดันให้ธุรกิจเพิ่มการส่งออกไปต่างประเทศมากขึ้น 

ปัจจัยทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจยังมีบทบาทสําคัญในการขับเคลื่อนความต้องการด้านบริการขนส่ง มรดกทางวัฒนธรรมและงานฝีมือของประเทศไทยดึงดูดผู้ซื้อจากต่างประเทศ ในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจช่วยส่งเสริมตลาดภายในประเทศที่เฟื่องฟู ด้วยเหตุนี้ โซลูชั่นการขนส่งไปต่างประเทศที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจ

กฎระเบียบ และข้อกําหนดเกี่ยวกับการส่งของจากไทยไปต่างประเทศ

การส่งของจากประเทศไทยไปต่างประเทศเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบเฉพาะ และต้องมีการเตรียมเอกสารที่จำเป็น ในฐานะผู้ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ เราแนะนำให้เตรียมข้อมูลเหล่านี้ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนที่อาจนําไปสู่ความล่าช้าหรือปัญหาด้านศุลกากร

หมวดหมู่ของสินค้า

หมวดที่ 1: สินค้าที่ได้รับการยกเว้นอากร
หมวดที่ 2: สินค้าที่ต้องเสียอากร
หมวดที่ 3: สินค้าที่ไม่จัดอยู่ในหมวดที่ 1 และหมวดที่ 2

ขั้นตอนและเอกสารที่จําเป็น

นี่คือขั้นตอนที่เกี่ยวข้องในการนําเข้าหรือส่งออกจากประเทศไทย

ขั้นตอนที่ 1: กรอกรายละเอียดใบสำแดงศุลกากร (Official declaration)
ขั้นตอนที่ 2: จัดเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ 

• รายงานสินค้า (Cargo Report) หรือ ใบตราส่งสินค้าทางอากาศ (Air Waybill)
• สําเนาใบกำกับสินค้า 3 ฉบับ
• รายการบรรจุภัณฑ์ (Packing list)
• การประกันภัย
• แบบฟอร์มการตรวจปล่อยสินค้า (Release form)
• แบบฟอร์มการทําธุรกรรมระหว่างประเทศ (Foreign transaction form)
• ใบอนุญาตนําเข้า Import license (ถ้ามี)
• ใบรับรองแหล่งกําเนิดสินค้า Certificates of origin (ถ้ามี)
• เอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (แคตตาล็อก ข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ ฯลฯ)

ขั้นตอนที่ 3: ยื่นใบสำแดงศุลกากร และเอกสารประกอบ
ขั้นตอนที่ 4: ชําระอากรขาเข้าและภาษีที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบและปล่อยสินค้าศุลกากร

ด้วยขั้นตอนมากมายเช่นนี้ ผู้ส่งจึงต้องมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าต้องกำกัดในการส่งไปต่างประเทศ และภาษีศุลกากร เนื่องจากผลิตภัณฑ์บางอย่างอาจมีข้อจํากัดในการส่งออกหรืออาจต้องมีใบอนุญาตพิเศษ การทําความคุ้นเคยกับกฎระเบียบข้อบังคับเหล่านี้จะช่วยป้องกันความล่าช้าในการส่งของไปต่างประเทศ และเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายไทย ซึ่งเอกสารที่ถูกต้องและการปฏิบัติตามกฎระเบียบเป็นกุญแจสําคัญในการหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักในระหว่างการส่งของไปต่างประเทศ

ให้ MyDHL+ เป็นตัวช่วยให้ส่งของไปต่างประเทศได้ง่ายขึ้น

MyDHL+ จาก DHL Express เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อน และปรับปรุงประสบการณ์ในการส่งของจากไทยไปต่างประเทศสําหรับธุรกิจและบุคคลทั่วไปให้ง่ายขึ้น แพลตฟอร์มแบบออลอินวันนี้มีคุณสมบัติหลากหลายที่จะทําให้การจัดการชิปเมนต์มีประสิทธิภาพและสะดวกยิ่งขึ้น

ตั้งแต่การติดตามสถานะการจัดส่ง ไปจนถึงการนัดรับสินค้า และการจัดการเอกสาร MyDHL+ และอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายทําให้การส่งออกจากประเทศไทยเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจที่คุ้นเคยกับตลาดส่งออกหรือบุคคลทั่วไปที่ส่งของไปต่างประเทศเป็นครั้งคราว แพลตฟอร์ม MyDHL+ ตอบโจทย์การส่งออกทุกรูปแบบ

รู้จักฟีเจอร์ต่างๆ ใน MyDHL+ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการส่งของไปต่างประเทศ

เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจาก MyDHL+ จำเป็นต้องเข้าใจคุณสมบัติหลักและวิธีใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ 

ขั้นตอนที่ 1: ถ้าคุณส่งของไปต่างประเทศเป็นประจำ แนะนำให้เปิดบัญชีธุรกิจกับ DHL Express 
ขั้นตอนที่ 2: เมื่อเปิดบัญชีสมาชิกแล้ว คุณจะสามารถเข้าถึงบัญชีของคุณได้อย่างง่ายดาย เพื่อใช้คุณสมบัติต่อไปนี้อย่างเต็มที่ 

การติดตามสถานะชิปเมนต์: การติดตามสถานะได้แบบเรียลไทม์เป็นเรื่องสำคัญมาก MyDHL+ ให้รายงานการติดตามการจัดส่งชิปเมนต์โดยละเอียด ช่วยให้คุณติดตามความคืบหน้าของพัสดุของคุณตั้งแต่การรับพัสดุต้นทางจนถึงการจัดส่งปลายทาง คุณจะหมดห่วงเพราะรับทราบข้อมูลในทุกขั้นตอน

การจัดการเอกสาร: การจัดการเอกสารสำหรับการส่งของไปต่างประเทศเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่สําคัญของ MyDHL+ แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้คุณสามารถสร้างและอัปโหลดเอกสารที่จําเป็นในการส่งออก เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามกฎ ระเบียบ ข้อกำหนดสำหรับการขนส่ง MyDHL+ รวบรวมขั้นตอนสำคัญนี้ไว้ที่เดียว จึงช่วยประหยัดเวลาและลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาด

แพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่น: MyDHL+ มีความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองความต้องการในการส่งของไปต่างประเทศที่หลากหลาย ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการตั้งค่าการจัดส่ง สมุดที่อยู่ และการตั้งค่าแดชบอร์ดให้เหมาะกับความต้องการทางธุรกิจเฉพาะของตน

เหมาะกับบริษัท: สําหรับธุรกิจในรูปแบบบริษัท การจัดการที่อยู่ในการรับและส่งอย่างเป็นระเบียบเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้กระบวนการขนส่งเป็นไปอย่างราบรื่น MyDHL+ ช่วยให้คุณสามารถบันทึกที่อยู่ที่ใช้บ่อย ซึ่งช่วยลดเวลาที่ใช้ในการกรอกข้อมูลด้วยตนเอง การปรับแต่ง การตั้งค่าแดชบอร์ดที่เกี่ยวกับโปรไฟล์การขนส่งยังช่วยให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์ที่ใช้บ่อยที่สุดได้อย่างรวดเร็ว

ส่งของจากไทยไปต่างประเทศทั่วโลกด้วย MyDHL+

สำหรับสินค้ามูลค่าสูง การส่งออกจากประเทศไทยไปต่างประเทศทั่วโลกยิ่งต้องการการวางแผนที่รอบคอบ ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม และต้องมีผู้ช่วยด้านโลจิสติกส์ที่เชื่อถือได้ การมีพาร์ทเนอร์ด้านโลจิสติกส์ที่เป็นมืออาชีพอย่าง DHL Express พร้อมโซลูชั่นการขนส่งระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพอย่าง MyDHL+ ธุรกิจต่างๆ จึงมั่นใจได้ในเรื่องการติดตามและการจัดส่งสินค้าที่มีมูลค่าจากประเทศไทยอย่างปลอดภัย 

เปิดบัญชีธุรกิจกับ DHL Express วันนี้ แล้วให้มืออาชีพอย่างเราดูแลเรื่องการขนส่งไปต่างประเทศแทนคุณ!