ควรใช้การขนส่งทางทะเลแบบไม่เต็มคอนเทนเนอร์เมื่อใด

มองหาวิธีที่ง่ายและคุ้มทุนในการขนส่งสินค้าปริมาณน้อยอยู่ใช่หรือไม่ ทางออกที่ดีที่สุดอาจเป็นการขนส่งทางทะเลแบบไม่เต็มคอนเทนเนอร์ (LCL)

LCL น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสินค้าที่ไม่เล็กเกินไป หรือไม่มีปริมาตรมากเกินไปหรือหนักเกินไป โดยทั่วไป LCL สามารถรับมือกับสินค้าได้สูงสุด 10 ตันหรือ 20 ลูกบาศก์เมตร (CBM)

หากสินค้าที่ต้องการส่งขนาดเล็กมาก – เช่น สินค้าที่หนักน้อยกว่า 300 กก. – คุณควรเลือกการขนส่งทางอากาศที่มีประโยชน์ของเวลาในการจัดส่งที่รวดเร็ว แต่หากสินค้าของคุณหนักมากกว่านี้ (การจะบอกขีดจำกัดที่แน่นอนนั้นยาก เนื่องจากมีปัจจัยหลากหลายที่ต้องพิจารณา) และหากกำหนดการของคุณมีเวลาว่างพอสำหรับการขนส่งทางทะเล ให้คิดเกี่ยวกับ LCL แทนอากาศ บริษัทมากมายที่พิจารณา LCL เป็นตัวเลือกที่คุ้มต้นทุนและเชื่อถือได้ในการขนย้ายสินค้า โดยเฉพาะเมื่อมีกำหนดการเป็นตัวเร่ง และคุณอาจชำระเงินเพียงหนึ่งส่วนสามของราคาการขนส่งทางอากาศที่เทียบเท่า นอกจากนี้ การขนส่งทางทะเลยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการขนส่งทางอากาศ และ DHL LCL มีการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ บลูกค้าที่กำหนดเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกโดยอิงหลักวิทยาศาสตร์ (SBTi) ซึ่งได้รับการการอนุมัติแล้ว

หากสินค้าของคุณไม่ต้องการคอนเทนเนอร์เฉพาะ หรือปริมาตรสินค้าจะไม่เต็มความจุคอนเทนเนอร์ LCL อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า FCL เนื่องจากคุณชำระสำหรับพื้นที่คอนเทนเนอร์ที่ใช้จริงเท่านั้น สำหรับบริษัทที่เป็นธุรกิจค้าปลีกที่ขนส่งสินค้าจากเอเชียไปยังยุโรปเป็นประจำ LCL มักจะพิสูจน์ว่าเป็นตัวเลือกที่ถูกกว่า FCL ประโยชน์อีกอย่างก็คือ แทนที่จะส่งคำสั่งซื้อขนาดใหญ่สำรับการขนส่งแบบ FCL ครั้งเดียว ผู้ส่งเหล่านี้สามารถส่งคำสั่งซื้อขนาดเล็กหลายครั้งซึ่งใช้ LCL ส่งโดยตรงทุกสัปดาห์หลายครั้งได้ง่าย

การขนส่งทางทะเลถูกกว่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่าทางอากาศ และด้วยชิปเมนท์ LCL คุณอาจลดต้นทุนและการปล่อยคาร์บอนได้มากขึ้นโดยการเพิ่มขั้นตอนการรวบรวมสินค้าระหว่างการขนส่ง ซึ่งหมายถึงขั้นตอนที่สินค้า LCL จากหลากหลายต้นทางถูกนำมารวมกันก่อนจะเดินทางต่อไปในเส้นทางเดียวกัน คุณจะได้ประโยชน์จากต้นทุนและคาร์บอนฟุตพรินท์ที่ลดลงอย่างมาก โดยเพียงแค่เผื่อเวลาในการจัดส่งมากขึ้น
 

การขนส่งทางอากาศจะเร็วกว่า LCL ยกเว้นในเส้นทางระยะสั้น หรือการขนส่งภายในภูมิภาคบางเส้นทาง คุณมักจะพบว่าเวลาในการจัดส่งจากท่าเรือถึงท่าเรือโดยตรงสำหรับ LCL และ FCL ไม่ต่างกัน เพียงแค่เผื่อเวลาพิเศษสำหรับกระบวนการจัดการ LCL ที่ทั้งสองฝั่ง ตามที่แสดงด้านล่างและอธิบายไว้ในบทความ LCL 101 ของเรา หากต้องการความเร็วมากขึ้น คุณสามารถพิจารณาใช้ LCL ด่วนได้เสมอ

คุณจะพบบริการ LCL ได้ในหลายภูมิภาคและครอบคลุมพื้นที่ระยะไกล เช่น เรามีบริการ LCL โดยตรงมากกว่า 2,800 เส้นทาง รวมทั้งสองเส่นทางในเส้นทางระหว่างทวีปอเมริกา เอเชียแปซิฟิก ยุโรป และตะวันออกกลาง & แอฟริกา พร้อมทั้งภายในอเมริกา ภายในเอเชีย ภายในยุโรป และภายในตะวันออกกลาง & แอฟริกา
 

คุณสามารถส่งสินค้าส่วนใหญ่กับ LCL ได้เหมือนกับ FCL หากเป็นสินค้าที่ไม่ต้องการการจัดการพิเศษ และสามารถโหลดร่วมกับสินค้าอื่นๆ ในคอนเทนเนอร์เดียวกันได้ สินค้าของคุณต้องเหมาะกับการขนส่งระยะไกลที่มีระยะเวลายาวนาน เนื่องจากการเดินทางในทะเลอาจใช้เวลาระหว่าง 20 และ 30 วัน บางครั้งอาจมากกว่า นี่คือรายการสินค้าที่ไม่รวมสำหรับ LCL: พืชที่มีชีวิต สัตว์ที่มีชีวิต สินค้าทุกชนิดที่เน่าเสียได้ เงินสดและหลักทรัพย์ สิ่งของมีค่า เช่น ทอง ทองคำขาว และเครื่องเพชรพลอย สินค้าอันตรายบางอย่าง อาวุธและเครื่องกระสุน ยานพาหนะรวมถึงมอเตอร์ไซค์ ยาสูบ บุหรี่ และของใช้ส่วนตัว

โดยทั่วไป สินค้าแต่ละชิ้นควรมีขนาดไม่เกิน 5.80 x 2.25 x 2.20 เมตร (ยxกxส) ปกติจะมีขีดจำกัดน้ำหนักต่อชิ้น (เช่น 2,500 กก.) และปริมาตรเป็นลูกบาศก์เมตรสูงสุดของชิปเมนท์ด้วย (เช่น 20 ลูกบาศก์เมตร) 

หากสินค้าของคุณมีขนาดที่ใหญ่หรือหนักกว่านี้ และปริมาตรชิปเมนท์มากกว่านี้ เราขอแนะนำให้ตรวจสอบกับพาร์ทเนอร์ LCL เรามักจะจัดการสินค้าที่ผิดปกติหลังจากตรวจสอบชิปเมนท์เฉพาะ เส้นทางการค้า การใช้คอนเทนเนอร์ และอื่นๆ
 

รายละเอียดความสามารถในการรองรับ LCL

LCL 101

การใช้ LCL

การทำเอกสาร LCL